วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2557

ยาสตรีหมอทองอินทร์

ยาสตรีหมอทองอินทร์ ช่วยให้ประจำเดือนมาตามปกติ ลดอาการปวดประจำเดือน ฟอกเลือด ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ ขับน้ำคาวปลา (น้ำคร่ำหลังคลอดบุตร) ซึ่งเป็นสรรพคุณที่วัยรุ่น วัยทำงาน วัยเราๆ ยังไม่จำเป็นต้อง แต่สรรพคุณที่มากกว่าของสมุนไพรที่นำมารวมกันเป็นตำรับยาสตรีนั้นมีความพิเศษอย่างที่ใครๆ คาดไม่ถึง และไม่จำเป็นต้องรอจนปวดประจำเดือนจึงจะหยิบหาซื้อมาทาน ปกติแล้วสมุนไพรที่นำมาปรุงเป็นยาสตรีนั้นจะเป็นสมุนไพรที่มีสารที่เรียกว่า ไฟโตเอสโตรเจน ที่ทำหน้าที่คล้ายๆ เอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) ในร่างกายเรา แต่มาจากพืช ทำให้ผู้ที่ทานยาสตรีเป็นประจำมีความสมบูรณ์ในลักษณะความเป็นหญิงสูง เราสามารถทานเพื่อบำรุงร่างกายได้กันทุกคน สรรพคุณที่ว่ามีผลต่อร่างกายของผู้หญิงยังไงจะขอเล่าเป็นภาษาที่เข้าใจกันได้ง่ายดังนี้


      1.คนที่มีปริมาณเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงมาก ผิวพรรณ ละเอียด นุ่ม เปล่งปลั่ง และผิวจะกระจ่างกว่าปกติ ทำให้คนสมัยก่อนๆ หน้าตาผิวพรรณดีทั้งที่สมัยนั้นยังไม่มีเครื่องสำอาง
      2.ช่วยให้คนที่รับประทานเป็นประจำมีสภาวะร่างกายดังวัยสาว ช่วยกระชับสัดส่วน ผลจากการกระชับสัดส่วนจากสมุนไพรกลุ่มที่นำมาปรุงเป็นยาสตรีนี้ เป็นไปในลักษณะถาวร เป็นการฟื้นฟูกระชับกล้ามเนื้อหูรูดได้ และยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นหนังตาตก หน้าท้องหย่อน กล้ามเนื้อสะโพก ช่วยให้หน้าอกเต่งตึง เอวคอด สะโพกฝาย หน้าท้องแบนราบ แม้จะเป็นคนที่มีบุตรแล้วก็ตาม คืนความสาว (ว่ากันอย่างนั้น)
     3.ทำให้หลับสนิทในช่วงกลางคืน ซึ่งมีผลอย่างมากต่อกระบวนการซ่อมแซมของร่างกาย เพราะการหลับสนิทในช่วงกลางคืน ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่า เมลาโทนิน สารเมลาโทนินเป็นฮอร์โมนระบบประสาทที่มีในร่างกายตามธรรมชาติ  เกี่ยวข้องกับการควบคุมวัฏจักรประจำวันของคนเรา ได้แก่ระบบสืบพันธุ์  ระบบประสาท  ระบบต่อมไร้ท่อ  ระบบภูมิคุ้มกัน  ระบบการด้านออกซิเดชัน  รวมถึงกลไกการชราภาพของร่างกาย เมลาโทนินยังสามารถกำจัดอนุมูลอิสระ  มีฤทธิ์ต้านออกซิเดวัน  และลดการถูกทำลายของเซลล์ได้   แต่ที่คนปัจจุบันต้องหาซื้อเมลาโทนินสังเคราะห์มาทานเพราะนอนไม่หลับ หรือไม่ค่อยนอนตอนกลางคืน นอนหลับไม่สนิท หรือเกี่ยวข้องกับอายุที่มากขึ้น ปริมาณการผลิตเมลาโทนินในร่างกายจึงลดลง เพราะฮอร์โมนนี้จะผลิตได้ก็ต่อเมื่อหลับสนิท ไม่มีแสง ที่สำคัญระดับของเมลาโทนินเฉลี่ยสูงสุดที่ผลิตในตอนกลางคืนประมาณ  60  พิโคกรัม/มล.ของพลาสม่า อยู่ในช่วงวัยของคนหนุ่มสาว
     4.ช่วยให้อวัยวะต่างๆ และสภาวะการทำงานของร่างกายของคนที่รับประทานสมุนไพรกลุ่มนี้เป็นประจำยังคงอยู่ในภาวะวัยเจริญพันธุ์ นั่นคือ วัยหนุ่มสาว ทั้งร่างกายและจิตใจจะมีความพร้อมต่อการสืบพันธุ์และการมีเพศสัมพันธุ์ มดลูกของผู้หญิงจะมีความแข็งแรงพอที่จะรองรับการฝังตัวของตัวอ่อน ระยะการตกไข่เป็นไปตามปกติ ต้องยอมรับว่าปัญหาหนึ่งของผู้หญิงสมัยนี้คือ การทำงานและมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวสูงพอๆ กับผู้ชายหรืออาจมากกว่าในบางท่าน ระดับความเครียดและความเร่งรีบของจังหวะชีวิตที่สูงขึ้น
        การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการใช้ชีวิตในลักษณะนี้แหละที่มีผลโดยตรงต่อระดับความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิง จนทำให้ความสมดุลของรู้สึกทางเพศของผู้หญิงไม่ปกติ ในขณะที่ผู้ชายยังสม่ำเสมอและปกติดี เกิดเป็นความห่างเหินและความไม่เข้าใจกันระหว่างคู่สามี ภรรยา ในบางคนมีภาวะคล้ายวัยทองก่อนที่จะถึงวัยทองซะอีก หากภาวะร่างกายของเราและสภาพอารมณ์เรายังอยู่ในวัยเจริญพันธ์แล้ว ปัญหาเหล่านี้ก็จะลดลง ทั้งยังช่วยให้กล้ามเนื้อช่องคลอดกระชับและมีความยืดหยุ่นมากกว่าปกติ ภาวะคู่ครองที่สุขสมจะช่วยให้ร่างกายผู้หญิงมีปริมาณการผลิตเอ็นโดรฟิน หรือสารแห่งความสุขออกมาทำให้ระดับความเครียดของผู้หญิงลดลงด้วย
     5.ผลพวงของการทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะวัยเจริญพันธุ์ ที่เกินคาดของเรา คือ ในสภาวะร่างกายของวัยเจริญพันธุ์ จะมีผลต่อการผลิตสารอีกที่เรียกว่า ฟีโรโมน” หรือที่เรียกว่า “สารเรียกรัก ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตเองตามธรรมชาติและจะผลิตมากเฉพาะช่วงวัยเจริญพันธ์         ว่ากันว่าสารฟีโรโมนนี้มีผลอย่างมากต่อระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต เพราะเป็นสารที่ส่งสัญญาณถึงเพศตรงข้าม ทำให้เพศตรงข้ามเกิดความหลงใหล เกิดความสัมพันธ์ทางใจในระดับการรับรู้ทางสมองและจิตใต้สำนึก ไม่มีกลิ่นแต่มีผลต่อประสาท   
           เราจะรู้ว่าใครมีฟีโรโมนมากหรือฟีโรโมนทำงานยังไง ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เคยเห็นคนที่รูปร่าง หน้าตาสะสวย สวยมาก แต่เรารู้สึกเฉยๆ มั้ยคะ ประมาณว่า ก็สวยดี กับอีกคนที่หน้าตาธรรมดา แต่ทำไมเห็นแล้วรู้สึกดึงดูดต้องมอง น่ามอง ดูดี ประทับใจ ดูแล้วใจเต้น หรือคนแปลกหน้าบางคนที่เพิ่งรู้จักแต่รู้สึกสนิทใจ เป็นมิตรที่จะคุยด้วย เกิความรู้สึกประทับใจโดยไม่มีเหตุผลความรู้สึกนั่นแหละคือการทำงานของฟีโรโมน มันมีผลทำให้คนบางคนดูดีขึ้น ประทับใจมิรู้ลืมกระบวนการผลิตของมันอยู่เหนืออำนาจการควบคุมของสมอง แต่รับรู้ด้วยสมองและมีผลโดยตรงต่อความรู้สึก  ทำให้สมัยนี้ฮิตซื้อน้ำหอมผสมฟีโรโมนมาใช้ แต่อีกวิธีหนึ่งที่จะได้ฟีโรโมนของเราเองจริงๆ คือการทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะที่พร้อมและผลิตเอง ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเรามีปริมาณฟีโรโมนที่มากพอจะเกิดอะไรขึ้นคนสมัยก่อนไม่เข้าใจฟีโรโมนหรอกค่ะ จึงสรรหาคำมาเติมแต่ง โดยใช้คำที่เรียกว่า สาบสาว” คือ กลิ่นตัว กลิ่นกาย กลิ่นหอมเนื้อตามธรรมชาติของผู้หญิง แล้วบอกว่า การทานยาสตรีเป็นประจำจะช่วยคืนกลิ่นสาบสาว...ให้ผู้หญิง
     6.ช่วยให้เซลล์ประสาทตื่นตัว ร่างกายก็พลอย Active ไปด้วย ความจำดี ลดอาการหลงลืม หรือภาวะเซลล์สมองเสื่อมก่อนวัย
     7.ช่วยกระตุ้นกระบวนการเมตาบลิซึมในร่างกาย ทำให้ปริมาณการเผาผลาญพลังงานในร่างกายสูง นั่นหมายถึงโอกาสที่จะมีไขมันสะสมในร่างกายต่ำ
     8.ช่วยให้จังหวะการบีบและคลายตัวของมดลูกเป็นปกติ อันจะทำให้สภาวะการมีและขับประจำเดือนเป็นไปตามปกติ ช่วยขับประจำเดือน ลดอาการคั่งค้างของประจำเดือนในมดลูกอันเป็นสาเหตุของการเกิดซีสในมดลูก
     9.ช่วยเพิ่มปริมาณเอสโตรเจนอันเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่อยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือนหรือผู้ที่ตัดมดลูกหรือรังไข่ ให้ยังคงได้รับเอสโตรเจนอยู่จากธรรมชาติอยู่
     จะว่าไปคือเกี่ยวเนื่องกับกลไกการทำงานตามธรรมชาติของผู้หญิงแทบทุกสัดส่วน ว่าง่าย คือรักษาสมดุลทางเพศให้ยังคงความเป็นหญิงสาวแม้อายุจะไม่ใช่ อันนี้เป็นเพียงบางส่วนด้วยซ้ำ คนโบราณมักจะมีของดีๆ ซ่อนอยู่แต่เราไม่รู้วิธีใช้เท่านั้นเอง รู้คงต้องหายาสตรีใช้ไปนานแล้    
        ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ ยาสตรีหมอทองอินทร์” สามารถทำให้ผู้หญิงดีขึ้นจริง ได้ผลแน่นอน
          วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ  1-2 ช้อนโต๊ะ(15-30 ซีซี)  ก่อนอาหาร วันละ 2 ครั้งคือ เวลาเช้า-เย็น(เขย่าขวดก่อนรินยา) และรับประทานขณะท้องว่าง
        ควรรับประทานให้ติดต่อกัน 15 วัน เป็นอย่างน้อย ก็จะเห็นผล
     ปริมาณและราคา  1 ขวด ปริมาณ 750 c.c.    ราคา  750 บาท
     ดูข้อมูลที่ http://ladyherbalphn.blogspot.com                    
     เลขทะเบียนยาที่  G 291/55
     สั่งซื้อละเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
          ผู้จำหน่ายรายใหญ่  คุณวีระชัย ทองสา
                 โทร.084-6822645 , 085-0250423(Line)
                    อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com







ประโยชนสำหรับผู้หญิงของยาสตรีหมอทองอินทร์

ยาสตรีหมอทองอินทร์ ประกอบด้วยสมุนไพร 20 ชนิด(มากกว่ายาสมุนไพรทั่วไป) จึงให้สรรพคุณชัดเจน รวดเร็วสำหรับคุณผู้หญิงทุกคน

       สรรพคุณยาสตรีหมอทองอินทร์ :
       แก้ปัญหานอนหลับสบาย ,ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี , บำรุงกำลัง , แก้โรคปวดเมื่อย , บำรุงผิวพรรณ , บำรุงกระดูก , บำรุงเลือด , บำรุงประสาท , บำรุงสมอง , บำรุงหน้าอกให้โตและเต่งตึง ,สะโพกขยาย , บำรุงความกำหนัด  , ทำให้อวัยวะสืบพันธุ์และมดลูกมีเลือดมาคั่งมากขึ้น , บำรุงอวัยวะสืบพันธุ์ให้เจริญ ,เป็นยาอายุวัฒนะ , อ่อนกว่าวัย , ผู้หญิงที่มีบุตรยากกินเป็นประจำจะช่วยทำให้มีบุตรง่าย
          ประโยชน์ 5 ด้านของ ยาสตรีหมอทองอินทร์
      1.อกฟู ยาสตรีหมอทองอินทร์ช่วยให้หน้าอกขยาย กระชับเต่งตึง สัมผัสความแตกต่างได้

          ปัญหาหนักอกหนักใจของสาว ๆ อกเล็ก อกหย่อนยาน ไม่อวบอิ่มเต็งตึง  ยาสตรีหมอทองอินทร์ คือทางเลือกใหม่สำหรับสาว ๆ ด้วยสมุนไพรที่ช่วยให้ อกฟู อวบอิ่ม เต่งตึง ได้รูป ที่ผ่านการคัดสรรค์เป็นพิเศษ ทดสอบและทดลองแล้วว่าเห็นผลจริงและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้
       2.รูฟิต ช่วยกระชับช่องคลอด,มดลูกหย่อน,บวม,อักเสบ,เชื้อราในช่องคลอด,คัน  สัมผัสถึงความแตกต่างได้

          ปัญหามดลูกต่ำ ช่องคลอดไม่กระชับ มีลมปากอ่าว จะไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณสาว ๆ อีกต่อไป ยาสตรีหมอทองอินทร์ช่วยปรับยกกระชับมดลูกให้เข้าที่ ช่วยให้ช่องคลอดแน่นกระชับ รูฟิต เหมือนสาวแรกรุ่น คืนความสาวให้กับคุณได้อีกครั้ง เพิ่มมนต์เสน่ห์ชวนหลงใหลให้กับคู่รักของคุณ กล้าท้าพิสูจน์ความมั่นใจด้วยสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยได้ตรงจุดปัญหา
    3.ผิวขาวใส ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื่นผ่องใส,ใบหน้าขาวนวลมีเลือดฝาด ทำให้ฝ้าเลือด ฝ้าลม ค่อย ๆ จากหายไป

          ยาสตรีหมอทองอินทร์ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิต มีส่วนสำคัญทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวลผิวใสมีออร่า ถ้าระบบขับถ่ายไหลเวียนของเลือดมีปัญหาทำให้ของเสียอยู่ในกระแสเลือดก็ส่งผลต่อสุขภาพและผิวพรรณ  ยาสตรีหมอทองอินทร์ประกอบด้วยสมุนไพรชวยปรับสมดุลธาตุและโลหิตทำให้ของเสียถูกขับออกจากร่างกายและช่วยให้ระบบเลือดมีการไหลเวียนดีมากยิ่งขึ้นช่วยให้ผิวพรรณสดใส ผิวใสมีออร่า น่าหลงไหลชวนมอง
      4.ปรับสมดุลย์ฮอร์โมนเพศหญิง เพิ่มฮอร์โมนเพศหญิง สร้างสมดุลของระบบไหลเวียนโลหิตในสตรี ลดความกังวล หงุดหงิด ขาดสมาธิ นอนไม่หลับ

          การลดลงของฮอร์โมนผู้หญิงทำให้ผู้หญิงดูแก่ก่อนวัย ปัจจัย จากความเครียดทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ทำให้สภาวะสมดุลในร่างกายเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดอาการหงุดหงิด นอนไม่หลับ ไม่มีความสุขในเรื่องบนเตียง ยาสตรีหมอทองอินทร์ช่วยปรับสมดุล และเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เกิดความอ่อนหวาน ผิวพรรณเนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง ผิวใสมีออร่า
          5.ลดปัญหา ปวดประจำเดือน  ประจำเดือนมาไม่ปกติ ,ตกขาว,มดลูกต่ำ,ดับกลิ่นที่ไม่พึงปราถนา

         ยาสตรีหมอทองอินทร์ แก้ปัญหาปวดประจำเดือน ตกขาว กลิ่นอับ มีเชื้อรา เป็นปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ของผู้หญิงทั้งหลาย สมุนไพรยาสตรีหมอทองอินทร์ ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้กับท่านได้ด้วยสูตรสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับและใช้กันมาตั้งแต่โบราณ ผ่านการวิจัยและพัฒนาจากเภสัชกรฯผู้เชี่ยวชาญและระบบการผลิตที่ทันสมัยได้รับมาตรฐานยา สมุนไพร G32/49
 ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ “ยาสตรีหมอทองอินทร์” สามารถทำให้ผู้หญิงดีขึ้นจริง ได้ผลแน่นอน
     วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ  1-2 ช้อนโต๊ะ(15-30 ซีซี)  ก่อนอาหาร วันละ 2 ครั้งคือ เวลาเช้า-เย็น(เขย่าขวดก่อนรินยา) และรับประทานขณะท้องว่าง
        ควรรับประทานให้ติดต่อกัน 15 วัน เป็นอย่างน้อย ก็จะเห็นผล
     ปริมาณและราคา  1 ขวด ปริมาณ 750 c.c.    ราคา  750 บาท
     ดูข้อมูลที่ http://ladyherbalphn.blogspot.com                   
     เลขทะเบียนยาที่  G 291/55
     สั่งซื้อละเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
          ผู้จำหน่ายรายใหญ่  คุณวีระชัย ทองสา

                 โทร.084-6822645 , 085-0250423(Line)
                  อีเมล์  weerachai.coffee@hotmail.com 


ประโยชน์ของเมล็ดพริกไทยในยาสตรีหมอทองอินทร์

เมล็ดพริกไทยมีสรรพคุณ เป็นยาร้อน ขับลม บำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร ผลและเมล็ด รักษาอาการปวดกระเพาะอาหาร อาเจียน ท้องเสีย ปวดฟัน แก้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย แก้หวัด
     ชื่อภาษาไทย        พริกไทย
     ชื่ออื่นๆ        พริกน้อย
     ลักษณะทางพฤกษศาสตร์      
     ไม้เลื้อยเนื้อแข็ง  ปลูกให้เลื้อยเกาะเสาหลัก  บริเวณข้อขยายพองออก มีรากสั้น ๆ ยึดเกาะพื้น ปลายยอดมีหูใบหุ้มใบอ่อน  ใบเดี่ยว  เรียงสลับ รูปไข่กว้าง ขนาดกว้าง 5-12 เซนติเมตร ยาว 8-20 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือเว้า อาจเอียงเล็กน้อย แผ่นใบด้านบนสีเขียว เป็นมัน ด้านล่างมีนวลเล็กน้อย มีจุดต่อมน้ำมันทั่วไป ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ ช่อห้อยลง แบบเชิงลด ยาว 3-15 เซนติเมตร ดอกเรียงชิดกันแน่น ดอกแยกเพศหรือสมบูรณ์เพศ สีขาวแกมเหลืองอ่อน กลีบรวม เกสรเพศผู้มี 2-4 อัน เกสรเพศเมีย ยอดเกสรมี 3-5 แฉก ผล  รูปกลม  เส้นผ่าศูนย์กลาง   0.4-0.6  เซนติเมตร  แก่สีแดงหรือดำ  ไม่มีก้าน  มี 1 เมล็ดต่อผล  เมล็ดรูปกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.3-0.4 เซนติเมตร [1] 
           สรรพคุณ       
           เป็นยาร้อน ขับลม บำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร  ผลและเมล็ด รักษาอาการปวดกระเพาะอาหาร อาเจียน ท้องเสีย ปวดฟัน แก้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย แก้หวัด
       สรรพคุณตำรายาไทย: ใช้ เมล็ด ลดอาการท้องอืดเฟ้อ  แน่นจุกเสียด ขับลมในลำไส้ให้ผายเรอ ช่วยเจริญอาหาร ,แก้กองลม , บำรุงธาตุ , แก้ลมอัมพฤกษ์ แก้มุตตกิต , แก้ลมสัตถกะวาตะ , แก้ลมอันเนื่องจากอวัยวะสืบพันธุ์ , แก้ลมมุตตฆาต (ลมที่ทำให้ท้องลั่นโครกคราก) ขับเสมหะ ขับเหงื่อ ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย  ทำให้ตัวเย็นรู้สึกร้อนเหงื่อออกสบาย ขับปัสสาวะ กระตุ้นประสาท บำรุงธาตุ บำรุงไฟธาตุ แก้อาหารไม่ย่อย ผลและเมล็ด รักษาอาการปวดกระเพาะอาหาร อาเจียน แก้ลม จุกเสียด แน่นท้อง ขับลมในกระเพาะ ท้องเสีย แก้ปวดท้อง ปวดฟัน แก้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย แก้หวัด ทำให้น้ำลายออกมาก ช่วยให้น้ำย่อยหลั่งมากขึ้น ทำให้อยากอาหาร แก้อ่อนเพลีย กษัยกร่อนแห้ง  แก้บิด ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตะคริว แผลปวดเพราะสุนัขกัด ฝี สะอึก ห้ามเลือด ยาหลังคลอดบุตร ปวดศีรษะ แก้อาหารเป็นพิษ ตำรายาอินเดีย ใช้กลั้วคอ แก้เจ็บคอ ลดไข้
           นอกจากนี้บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5)    ปรากฏการใช้พริกไทยในยารักษาอาการโรคในระบบต่างๆของร่างกาย รวม 2 ตำรับ คือ
          1.ยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ปรากฏตำรับ ยาประสะกานพลูมีส่วนประกอบของพริกไทยร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย เนื่องจากธาตุไม่ปกติ
          2.ยารักษากลุ่มอาการทางสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ปรากฏตำรับ ยาประสะไพลมีส่วนประกอบของพริกไทย ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ ใช้ในสตรีที่ระดูมาไม่สม่ำเสมอ หรือมาน้อยกว่าปกติ
           ตำรายาไทยพริกไทยจัดอยู่ใน พิกัดตรีกฎุกแปลว่าของที่มีรสร้อน 3 อย่าง เป็นพิกัดยาที่ประกอบด้วยเครื่องยา 3 อย่าง ในปริมาณเสมอกันคือ เมล็ดพริกไทย เหง้าขิงแห้ง และดอกดีปลี มีสรรพคุณแก้โรคที่เกิดจากวาตะ(ลม) เสมหะ และปิตตะ(ดี) ในกองธาตุ กองฤดู กองอายุ และกองสมุฏฐาน พิกัดตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิดคือการจำกัดจำนวนตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิด คือ พริกไทย ดีปลี ผลผักชีลา ใบแมงลัก ผลกระวาน ใบโหระพา มีสรรพคุณแก้ลมจุกเสียด ช้ำบวม ช่วยย่อยอาหาร
           พริกไทยใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในยาแผนโบราณของจีนและอินเดีย ใช้แก้หวัด ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดประจำเดือน คลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย
            กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ลดภาวะท้องเดิน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมัน มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน ลดการอักเสบ กดระบบประสาทส่วนกลางระงับอาการชัก ยับยั้งการกระจายของเซลล์มะเร็ง ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ต้านเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ยับยั้งเอนไซม์ acetylcholine esterase กำจัดยุง แมลงวัน ศัตรูพืช
       ปัจจุบัน เมล็ดพริกไทย มีอยู่ใน ยาน้ำสมุนไพร ยาสตรี หมอทองอินทร์
   วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ  1-2 ช้อนโต๊ะ(15-30 ซีซี)  ก่อนอาหาร วันละ 2 ครั้งคือ เวลาเช้า-เย็น(เขย่าขวดก่อนรินยา) และรับประทานขณะท้องว่าง
        ควรรับประทานให้ติดต่อกัน 15 วัน เป็นอย่างน้อย ก็จะเห็นผล
     ปริมาณและราคา  1 ขวด ปริมาณ 750 c.c.    ราคา  750 บาท
     ดูข้อมูลที่ http://ladyherbalphn.blogspot.com                  
     เลขทะเบียนยาที่  G 291/55
     สั่งซื้อละเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
          ผู้จำหน่ายรายใหญ่  คุณวีระชัย ทองสา
                 โทร.084-6822645 , 085-0250423(Line)

          อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com



  

ประโยชน์ของเหง้าขิงแห้งในยาสตรีหมอทองอินทร์

      เหง้าขิงแห้งมีสรรพคุณ บรรเทาอาการท้องอืด ขับลม จุกเสียด แน่นท้อง ป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน
      ชื่อเครื่องยา  ขิง
      สมุนไพรได้จาก เหง้าแก่
      ชื่ออื่น(ของพืชที่ให้เครื่องยา) ขิงแกลง ขิงแดง ขิงเผือก สะเอ
      ชื่อวิทยาศาสตร์  Zingiber officinale Roscoe
     ลักษณะภายนอกของเครื่องยา:
            เหง้ามีลักษณะเป็นข้อๆ แบนในแนวนอน แตกแขนง รูปร่างเหมือนฝ่ามือประกอบด้วยแง่งเล็กๆ เปรียบเสมือนนิ้ว ขนาดยาว 3- 16 เซนติเมตร กว้าง 3-4 เซนติเมตร และหนา มากกว่า 2 เซนติเมตร ผิวนอกสีเหลือง หรือน้ำตาลอ่อน มีแนวย่นตามยาว ภายในมีสีเหลืองอ่อนถึงสีน้ำตาล เป็นเสี้ยน    มี fiber มาก กลิ่นหอมเฉพาะ ผงสีเหลืองอ่อน รสหวาน เผ็ดจัด ร้อน
           ลักษณะทางกายภาพและเคมีที่ดี:
            ปริมาณความชื้นไม่เกิน 10% w/w  ปริมาณสิ่งแปลกปลอมไม่เกิน 2% w/w  ปริมาณเถ้ารวมไม่เกิน 8% w/w  ปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรด ไม่เกิน 2% w/w  ปริมาณสารสกัดเอทานอล ไม่น้อยกว่า 4.5% w/w  ปริมาณสารสกัดน้ำ ไม่น้อยกว่า 10% w/w  ปริมาณน้ำมันระเหยง่าย (volatile oil) ไม่น้อยกว่า 1.8% v/w  ปริมาณ gingerol และ gingerdiones ไม่น้อยกว่า 0.8%ปริมาณ shogaols ไม่น้อยกว่า 0.2%
            สรรพคุณ:
            ตำรายาไทย: ใช้เหง้า รักษาอาการท้องอืด เฟ้อ เสียดท้อง อาหารไม่ย่อย ปวดเกร็งช่องท้อง แก้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร รักษาอาการหวัด รักษาอาการปวดศีรษะเนื่องจากไมเกรน และรักษาอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ บำรุงธาตุไฟ ฆ่าพยาธิ สรรพคุณโบราณ ขิงแห้ง แก้ไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ ขับเหงื่อ แก้หอบ แก้ลม แก้จุกเสียด แก้เสมหะ บำรุงธาตุ แก้คลื่นเหียน อาเจียน ส่วนขิงสด ใช้แก้ปวดท้อง บำรุงธาตุ ขับลมในลำไส้ให้ผายลมและเรอ แก้อาเจียน ยาขมเจริญอาหาร ขับน้ำดีช่วยย่อยอาหาร แก้ปากคอเปื่อย แก้ท้องผูก ลดความดัน
           ตำรายาไทย: มีการใช้เหง้าขิงใน พิกัดจตุวาตะผลคือการจำกัดจำนวนตัวยาแก้ลม ประกอบด้วยผล 4 อย่าง คือ เหง้าขิงแห้ง กระลำพัก อบเชยเทศ และโกฐหัวบัว มีสรรพคุณแก้ไข้ แก้พรรดึก แก้ตรีสมุฏฐาน ขับผายลม บำรุงธาตุ แก้ลมกองริดสีดวง พิกัดเบญจกูลคือการจำกัดจำนวนตระกูลยาที่มีรสร้อน 5 อย่าง มี เหง้าขิงแห้ง ดอกดีปลี รากช้าพลู เถาสะค้าน รากเจตมูลเพลิง มีสรรพคุณกระจายกองลมและโลหิต แก้คูถเสมหะ แก้ลมพานไส้ บำรุงกองธาตุทั้ง 4 ให้บริบูรณ์ พิกัดตรีรัตตะกุลา (ตรีสัตกุลา)คือการจำกัด ตัวยาอันสามารถ 3 อย่าง ประกอบด้วย เหง้าขิงสด ผลผักชีลา และเทียนดำ ใช้อย่างละเท่าๆกัน ในการบำรุงธาตุไฟ ขับลมในลำไส้ แก้อาการธาตุ นอกจากนี้บัญชียาจากสมุนไพร ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5)    ปรากฏการใช้ขิงแห้ง ในยารักษาอาการโรคในระบบต่างๆของร่างกาย รวม 3 ตำรับ คือ
                1.ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ ยาหอมนวโกฐมีส่วนประกอบของขิงแห้ง ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณในการแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้อง
                2. ยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ปรากฏตำรับ ยาธาตุบรรจบมีส่วนประกอบของขิง ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณ บรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ และตำรับ ยาประสะกานพลูมีส่วนประกอบของขิงแห้ง ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย เนื่องจากธาตุไม่ปกติ นอกจากนี้ยังจัดอยู่ในบัญชียาพัฒนาจากสมุนไพรที่สามารถใช้เดี่ยว เพื่อบรรเทาอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง ป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียนจากการเมารถ เมาเรือ ป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน หลังการผ่าตัด
            องค์ประกอบทางเคมี:
            สารที่ให้รสเผ็ดร้อน gingerols. สาร shogaols, น้ำมันหอมระเหยและชัน(oleoresin) 4.0-7.5% ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหย 1.0-3.3% สารประกอบหลักคือ sesquiphellandrene hydrocarbon 30-70% (เป็นสารที่ให้กลิ่นหอม) ได้แก่ (-)-zingiberene, (+)-ar-curcumene, (-)-?-sesquiphellandrene
            กระตุ้นการบีบตัวของหัวใจหนู  ยับยั้งการจับตัวของเกล็ดเลือด แก้ปวด ลดไข้  ขับน้ำดี ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้บีบตัวเพิ่มขึ้น ยับยั้งเชื้อ H.pylori ต้านการอักเสบ ปกป้องไต ปกป้องตับ ต้านมะเร็ง ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่  ลดน้ำตาลในเลือด 
            ป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน ที่เกี่ยวเนื่องจากการเมารถ เมาเรือ หลังการผ่าตัด และการอาเจียนจากการตั้งครรภ์ บรรเทาปวดของผู้ป่วยข้ออักเสบ ปวดหลังเรื้อรัง บรรเทาอาการปวดบวม    ป้องกันและเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
     ปัจจุบัน เหง้าขิงแห้ง มีอยู่ใน ยาน้ำสมุนไพรยาสตรีหมอทองอินทร์
   เลขทะเบียนยาที่ G574/51
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ  1-2 ช้อนโต๊ะ(15-30 ซีซี)  ก่อนอาหาร วันละ 2 ครั้งคือ เวลาเช้า-เย็น(เขย่าขวดก่อนรินยา) และรับประทานขณะท้องว่าง
        ควรรับประทานให้ติดต่อกัน 15 วัน เป็นอย่างน้อย ก็จะเห็นผล
     ปริมาณและราคา  1 ขวด ปริมาณ 750 c.c.    ราคา  750 บาท
     ดูข้อมูลที่ http://ladyherbalphn.blogspot.com                 
     เลขทะเบียนยาที่  G 291/55
     สั่งซื้อละเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
          ผู้จำหน่ายรายใหญ่  คุณวีระชัย ทองสา
                 โทร.084-6822645 , 085-0250423(Line)

          อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com



  

ประโยชน์ของดอกดีปลีในยาสตรีหมอทองอินทร์

 สรรพคุณแก้อัมพาต  แก้เส้นปัตตะฆาต  แก้เส้นอัมพฤกษ์  แก้คุดทะราดให้ปิดธาตุ  แก้โรคหลอดลมอักเสบ  เป็นยาขับระดู  เป็นยาธาตุ  ทาแก้ปวดอักเสบของกล้ามเนื้อ
      ชื่อเครื่องยา  ดีปลี
       สมุนไพรได้จากผลที่แก่จัดแต่ยังไม่สุก
       ชื่ออื่น(ของพืชที่ให้เครื่องยา)ดีปลีเชือก ประดงข้อ ปานนุ พิษพญาไฟ ปีกผัวะ
     ชื่อวิทยาศาสตร์  Piper retrofractum Vahl
      ลักษณะภายนอกของเครื่องยา:
            ผลแห้งสีน้ำตาลแดง  ผลอัดกันแน่นเป็นช่อรูปทรงกระบอก  โคนโต  ปลายเล็กมน  ขนาดยาวประมาณ  2.5-7.5  เซนติเมตร  เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5.0 8.0  มิลลิเมตร  ผิวค่อนข้างหยาบ  และมีเกสรตัวเมียติดอยู่ ผลย่อยมีเมล็ดเดียว  เมล็ดมีขนาดเล็กมาก  กลมและแข็ง  ผงผลสีน้ำตาล กลิ่นหอมเฉพาะ  รสเผ็ดร้อน  ขม ปร่า ขับน้ำลาย ทำให้ลิ้นชา
ลักษณะทางกายภาพและเคมีที่ดี:
            ปริมาณน้ำไม่เกิน 13% w/w  ปริมาณเถ้ารวมไม่เกิน 7.5% w/w  ปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรด ไม่เกิน 0.4% w/w  ปริมาณสารสกัดเอทานอล ไม่น้อยกว่า 10% w/w  ปริมาณน้ำมันระเหยง่าย ไม่น้อยกว่า 1.0% v/w  ปริมาณอัลคาลอยด์ โดยคำนวณเปรียบเทียบกับสาร piperine ไม่น้อยกว่า 2.5% w/w 
             สรรพคุณ:
            ตำรายาไทย: ใช้ผล  ขับลม ลดอาการไอ  ระคายคอจากเสมหะ ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อแน่นจุกเสียด  บำรุงธาตุไฟ แก้ปวดท้อง  แก้คลื่นไส้  อาเจียน  แก้ตับพิการ แก้ท้องร่วง แก้ไอ  บีบมดลูก บำรุงธาตุ  ใช้เป็นยาแก้โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ  เช่น  ขับเสมหะ  แก้หืด  แก้หลอดลมอักเสบ  แก้ลมวิงเวียน เป็นยาระงับแก้อาการนอนไม่หลับ  โรคลมบ้าหมู  เป็นยาขับน้ำดี  เมื่อมีการอุดตันของท่อน้ำดี  ยาขับระดูและทำให้แท้งลูก  เป็นยาขับพยาธิในท้อง  แก้ริดสีดวงทวารหนัก ใช้ปรุงเป็นยาทาภายนอกสำหรับบรรเทาอาการปวดที่กล้ามเนื้อ  ทำให้ร้อนแดงและมีเลือดมาเลี้ยงที่บริเวณนั้นมากขึ้น  แก้อักเสบ ฝนเอาน้ำทาแก้ฟก บวม ใส่ฟัน แก้ปวดฟัน
           ตำรายาโบราณ: กล่าวว่า ผลแก้อัมพาต  แก้เส้นปัตตะฆาต  แก้เส้นอัมพฤกษ์  แก้คุดทะราดให้ปิดธาตุ  แก้โรคหลอดลมอักเสบ  เป็นยาขับระดู  เป็นยาธาตุ  ทาแก้ปวดอักเสบของกล้ามเนื้อ  ระงับอชิณโรค  บำรุงธาตุ  ขับลม  ขับลมให้กระจาย  ขับผายลม  แก้ลม  ขับลมในลำไส้  แก้ท้องร่วง  แก้ธาตุพิการ  แก้ธาตุไม่ปกติ  แก้ปฐวีธาตุพิการ  แก้วิสติปัฏฐี  แก้ปัถวีธาตุ  20  ประการ  บำรุงร่างกาย  เจริญอาหาร  แก้จุกเสียด  เจริญไฟธาตุ  แก้ปวดท้อง ขับเสมหะในโรคหืด  แก้อุระเสมหะ (เสมหะในทรวงอก)  ปรุงเป็นยาประจำ  ปัถวีธาตุ  เป็นยาขับรกให้รกออกง่าย  ภายหลังจากการคลอดบุตรและใช้เวลาโลหิตตกมาก  แก้เสมหะ  แก้หืดไอ  แก้ลมวิงเวียน  แก้ริดสีดวงทวาร  แก้คุดทะราด  แก้อาการท้องอืด  ท้องเฟ้อ  แก้อาการคลื่นไส้  (เกิดจากธาตุไม่ปกติ)
            ตำรายาไทย: ดีปลีจัดอยู่ใน พิกัดตรีกฎุกแปลว่าของที่มีรสร้อน 3 อย่าง เป็นพิกัดยาที่ประกอบด้วยเครื่องยา 3 อย่าง ในปริมาณเสมอกันคือ พริกไทย ขิงแห้ง และดีปลี มีสรรพคุณแก้โรคที่เกิดจากวาตะ(ลม) เสมหะ และปิตตะ(ดี) ในกองธาตุ กองฤดู กองอายุ และกองสมุฏฐาน พิกัดตรีสันนิบาตผล(ตรีสัพโลหิตผล)" คือการจำกัดตัวยาแก้ไข้สันนิบาต 3 อย่าง คือ ผลดีปลี รากพริกไทย และรากกระเพราแดง มีสรรพคุณแก้ไข้สันนิบาต แก้ในกองลม บำรุงธาตุ แก้ปถวีธาตุ 20 ประการ พิกัดตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิดคือการจำกัดจำนวนตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิด คือ ดีปลี พริกไทย ผลผักชีลา ใบแมงลัก ผลกระวาน ใบโหระพา มีสรรพคุณแก้ลมจุกเสียด ช้ำบวม ช่วยย่อยอาหาร พิกัดเบญจกูลคือการจำกัดจำนวนตระกูลยาที่มีรสร้อน 5 อย่าง มี เหง้าขิงแห้ง ดอกดีปลี รากช้าพลู เถาสะค้าน รากเจตมูลเพลิง มีสรรพคุณกระจายกองลมและโลหิต แก้คูถเสมหะ แก้ลมพานไส้ บำรุงกองธาตุทั้ง 4 ให้บริบูรณ์
           ตำรายาพระโอสถพระนารายณ์:ปรากฏตำรับ ยาอาภิสะมีดีปลีเป็นองค์ประกอบหลักร่วมกับสมุนไพรอื่นอีกหลายชนิด มีสรรพคุณแก้ริดสีดวง ไอ ผอมแห้ง แก้เสมหะในทรวงอกและลำคอ
           นอกจากนี้บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5)    ปรากฏการใช้เมล็ดเทียนดำ ในยารักษาอาการโรคในระบบต่างๆของร่างกาย รวม 5 ตำรับ คือ
                   1.ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ ยาหอมนวโกฐมีส่วนประกอบของดีปลี ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณในการแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้อง
                   2. ยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ปรากฏตำรับ ยาธาตุบรรจบมีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณ บรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ ตำรับ ยาประสะกานพลูมีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย เนื่องจากธาตุไม่ปกติ ตำรับยาเหลืองปิดสมุทรมีส่วนประกอบของดีปลี ร่วมกับสมุนไพรอื่นอีก 12 ชนิดในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูก หรือมีเลือดปนและท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้
                   3.ยารักษากลุ่มอาการทางสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ปรากฏตำรับ ยาประสะไพลมีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ ใช้ในสตรีที่ระดูมาไม่สม่ำเสมอ หรือมาน้อยกว่าปกติ
            การศึกษาทางเภสัชวิทยา:
            มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา  ต้านการเกิดแผลที่กระเพาะอาหาร  ต้านออกซิเดชั่น กดประสาทส่วนกลาง เสริมฤทธิ์ยานอนหลับ ลดไขมันในเลือด ลดน้ำตาลในเลือด ต้านพิษต่อตับ ทำให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว สารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์ทำให้สัตว์ทดลองแท้ง จึงควรระวังการใช้ในสตรีมีครรภ์
     ปัจจุบัน เหง้าดอกดีปลี มีอยู่ใน ยาน้ำสมุนไพร ยาสตรี หมอทองอินทร์
   วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ  1-2 ช้อนโต๊ะ(15-30 ซีซี)  ก่อนอาหาร วันละ 2 ครั้งคือ เวลาเช้า-เย็น(เขย่าขวดก่อนรินยา) และรับประทานขณะท้องว่าง
        ควรรับประทานให้ติดต่อกัน 15 วัน เป็นอย่างน้อย ก็จะเห็นผล
     ปริมาณและราคา  1 ขวด ปริมาณ 750 c.c.    ราคา  750 บาท
     ดูข้อมูลที่ http://ladyherbalphn.blogspot.com               
     เลขทะเบียนยาที่  G 291/55
     สั่งซื้อละเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
          ผู้จำหน่ายรายใหญ่  คุณวีระชัย ทองสา
                 โทร.084-6822645 , 085-0250423(Line)
          อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com