รากช้าพลูมีสรรพคุณ แก้เสมหะ
ท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคเบาหวาน
ชื่อ : ชะพลู ช้าพลู
รากชะพลู รากช้าพลู
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper
sarmentosum Roxb
ชะพลู
ชะพลูมีชื่อพื้นเมืองอื่นๆอีกคือทางภาคเหนือเรียกว่า
"ผักปูนา" "ผักพลูนก" "พลูลิง" "ปูลิง"
"ปูลิงนก" ทางภาคกลาง เรียกว่า "ช้าพลู" ทางภาคอีสานเรียกว่า
"ผักแค" "ผักปูลิง" "ผักนางเลิด" "ผักอีเลิด"
และ ทางภาคใต้เรียกว่า "นมวา"
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก
ลำต้นทอดคลานไปตามพื้นดิน สูง 30-80 เซนติเมตร ลำต้นสีเขียว มีไหลงอกเป็นต้นใหม่
มีรากงอกออกตามข้อ ใบ เป็นใบเดี่ยว
ออกเรียงสลับ แผ่นใบบาง ผิวใบเรียบสีเขียวเข้มเป็นมัน ใบรูปหัวใจ กว้าง 5-10 ซม. ยาว 7-15 ซม.
ปลายใบแหลม โคนใบเว้า ดอก ออกเป็นช่อที่ซอกใบรูปทรงกระบอก ดอกเล็กสีขาวอัดแน่นอยู่บนแกนช่อดอก ดอกแยกเพศ ผล เป็นผลสด กลม อัดแน่นอยู่บนแกน
ส่วนที่ใช้ :
ผล ใบ ทั้งต้น ราก
ประโยชน์ของชะพลู
ดอก
: ทำให้เสมหะแห้ง ช่วยขับลมในลำไส้
ราก : ขับเสมหะให้ออกมาทางระบบขับถ่าย
ขับลมในลำไส้ ทำให้เสมหะแห้ง
ทั้งต้น
: แก้เสมหะ ท้องอืด ท้องเฟ้อ - รักษาโรคเบาหวาน
วิธีและปริมาณที่ใช้
-โรคเบาหวาน
ใช้ชะพลูสดทั้ง 5 จำนวน 7 ต้น ล้างน้ำให้สะอาด ใส่น้พอท่วม ต้มให้เดือดสักพัก
นำมาดื่ม เหมือนดื่มน้ำชา ข้อควรระวัง -
จะต้องตรวจน้ำตาลในปัสสาวะก่อนดื่มและหลังดื่มทุกครั้ง เพราะว่าน้ำยานี้ทำให้น้ำตาลลดลงเร็วมาก
ต้องเปลี่ยนต้นชะพลูใหม่ทุกวันที่ต้ม ต้มดื่มต่อไปทุกๆ วัน จนกว่าจะหาย
-แก้ท้องอืดเฟ้อ
ขับลม ใช้ราก 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 1/2 ถ้วยแก้ว
รับประประทานครั้งละ 1/2 ถ้วยแก้ว
-แก้บิด
ใช้รากครึ่งกำมือ ผล 2-3 หยิบมือ ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 ถ้วยแก้ว
รับประทานครั้งละ 1/4 ถ้วยแก้ว
สรรพคุณ / ประโยชน์ของใบชะพลู (ชะพลู)
คุณค่าทางอาหารของใบชะพลู
คุณค่าสมุนไพรใบชะพลูนั้นได้แก่รากนั้นใช้ขับเสมหะ
บำรุงธาตุ ใบมีคุณสมบัติเจริญอาหารและขับเสมหะ เถาและรากก็ใบขับเสมหะเหมือนกัน
รับประทานใบชะพลูบ้างเพื่อปรับธาตุปรับสมดุลในร่างกาย
แต่อย่ามากเกินเพราะอาจเป็นพิษกับตัวคนกินได้ ดังนั้นรู้จักความพอดีได้ในใบชะพลู
ประโยชน์ของใบชะพลู
ในใบชะพลูมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายของมนุษย์อย่างมาก
คือ แคลเซียมและวิตามินเอซึ่งจะมีสูงเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีฟอสฟอรัส เหล็ก
เส้นใย และสารคลอโรฟิล ส่วนสรรพคุณทางยานั้นช่วยบำรุงธาตุ แก้จุกเสียด
การกินใบชะพลูมาก ๆ ชนิดที่เรียกว่า กินกันทุกวัน กินกันแทบทุกมื้อ เช่น
ชาวบ้านภาคอีสานนั้น แคลเซียมที่มีในใบชะพลูจะเปลี่ยนเป็นแคลเซียมออกซาเลท
ซึ่งถ้าสะสมมาก ๆ อาจกลายเป็นนิ่วในไตได้ แต่โดยทั่ว ๆ
ไปในชีวิตประจำวันก็ไม่มีใครกินชะพลูได้มากมายขนาดนั้น
ถ้ากินใบชะพลูต้องกินร่วมกับเนื้อสัตว์ร่างกายจึงใช้แคลเซียมที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน รากช้าพลู มีอยู่ใน ยาน้ำสมุนไพร ยาสตรีหมอทองอินทร์
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ(15-30 ซีซี) ก่อนอาหาร วันละ 2 ครั้งคือ
เวลาเช้า-เย็น(เขย่าขวดก่อนรินยา) และรับประทานขณะท้องว่าง
ควรรับประทานให้ติดต่อกัน 15 วัน
เป็นอย่างน้อย ก็จะเห็นผล
ปริมาณและราคา 1 ขวด ปริมาณ 750
c.c. ราคา 750
บาท
เลขทะเบียนยาที่ G 291/55
สั่งซื้อละเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่
ผู้จำหน่ายรายใหญ่ คุณวีระชัย ทองสา
โทร.084-6822645 , 085-0250423(Line)
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น